เมนู

พระศาสดาทรงบอกอุบายบรรเทากินจุ


ในกาลจบเทศนา พระศาสดาได้ตรัสพระคาถานี้ด้วยสามารถอุปการะ
แก่พระราชาว่า:-
" คนผู้มีสติทุกเมื่อ รู้จักประมาณในโภชนะที่ได้
แล้วนั้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บน้อย แก่ช้า อายุยืน."

ดังนี้แล้ว โปรดให้อุตตรมาณพเรียนไว้แล้ว ทรงแนะอุบายว่า " เธอ
พึงกล่าวคาถานี้เฉพาะในเวลาที่พระราชาเสวย, และพึงให้พระราชาทรง
ลดโภชนะลงด้วยอุบายนี้," เขาได้กระทำเช่นนี้.
สมัยต่อมา พระราชาทรงกระปรี้กระเปร่า มีพระสรีระเบา ทรงถึง
ความสำราญ เพราะความที่ทรงมีพระกระยาหารทะนานหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง
ทรงมีความคุ้นเคยบังเกิดขึ้นในพระศาสดาแล้ว ทรงให้อสทิสทานเป็นไป
7 วัน. ในเพราะทรงอันโมทนาทาน มหาชนซึ่งมาประชุม (ณ ที่นั้น)
บรรลุคุณวิเศษใหญ่แล้ว ดังนี้แล.
เรื่องพระเจ้าปเสนทิโกศล จบ.

5. เรื่องสานุสามเณร [236]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภสามเณร ชื่อ
สานุ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อิทํ ปุเร " เป็นต้น.

สานุสามเณรประกาศธรรม


ได้ยินว่า สามเณรนั้นได้เป็นบุตรน้อยคนเดียวของอุบาสิกาคนหนึ่ง.
ครั้งนั้น นางให้เธอบรรพชาในกาลที่เธอเป็นเด็กทีเดียว. ตั้งแต่กาลที่
บรรพชาแล้ว เธอได้เป็นผู้มีศีล สมบูรณ์ด้วยวัตร. เธอได้กระทำวัตรแก่
อาจารย์ อุปัชฌายะ และพระอาคันตุกะทั้งหลายทีเดียว. ตลอด 8 วัน
ของเดือน เธอลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ เข้าไปตั้งน้ำในโรงน้ำ ปัดกวาดโรง
ธัมมัสสวนะ ตามประทีป ประกาศธัมมัสสวนะด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ.
ภิกษุทั้งหลายทราบเรี่ยวแรงของเธอแล้ว ย่อมเชื้อเชิญว่า " จงกล่าวบท
ภาณะเถิด สามเณร." เธอไม่กระทำอิดเอื้อนไร ๆ ว่า " ลมเสียดแทง
หทัยของผม, หรือโรคไอเบียดเบียนผม" ขึ้นสู่ธรรมาสน์ กล่าวบทภาณะ
เหมือนจะให้น้ำในอากาศตกลง เมื่อจะลง ย่อมกล่าวว่า " ข้าพเจ้าให้ส่วน
บุญ ในเพราะการกล่าวนี้แก่มารดาและบิดาของข้าพเจ้า." มนุษย์ทั้งหลาย
หาทราบความที่เธอให้ส่วนบุญแก่มารดาและบิดาไม่.

ยักษิณีเคยเป็นมารดาของสานุสามเณร


ก็มารดาของเธอเกิดเป็นยักษิณีในอัตภาพเป็นลำดับ นางมากับ
เทวดาทั้งหลาย ฟังธรรมแล้ว (เมื่อจะอนุโมทนา) ส่วนบุญที่สามเณรให้
ย่อมกล่าวว่า " ฉันขออนุโมทนา พ่อ." ก็ธรรมดาภิกษุทั้งหลาย ผู้สมบูรณ์